03 ธันวาคม 2552

เรื่องจริงของสาวอาบอบนวด...ต้องอ่าน

ต้นเรื่อง
ฉันทำงานอาบ อบ นวดแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี่ค่ะ ปัจจุบันอายุ 30 เศษแล้ว

เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ค่าตัวจริงๆ ได้ต่อหัวๆ ละ 300 กว่าบาท ถึง 500 บาท เชื่อมั้ยคะ ต้องอาบน้ำให้แขก โดนทั้งเลียของผู้ชาย โดนประตูหน้า ประตู หลัง เพื่อแลกกับเงินแค่นี้จริงๆ ค่ะ ด้วยการคัดเลือก ดิฉันได้เบอร์ตอง ซึ่งต้องรับงานมากกว่ารายอื่น ๆ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาขณะนั้นสวยไม่แพ้ใครค่ะ เวลาเดินถนนมีชายหนุ่ม ชายแก่ หญิงสาว มองเหลียวหลัง ไม่ได้แต่งตัวหวือหวานะคะ แต่งกายเรียบ ๆ แต่หน้าอกค่อนข้างชันและใหญ่ ใครจะคิดล่ะคะว่า ทำให้ผู้ชายทั้งคนได้เงินเพียงแค่นั้นต่อหัววันหนึ่งรับงานไม่ต่ำกว่า 5 คนขึ้นไป เริ่มงานบ่ายโมง เลิกงานประมาณ 5 ทุ่มหนึ่งเดือนหยุดประมาณ 4-5 วัน แล้วแต่เลขท้ายเราลงตรงกับวันไหน

ผู้ที่ใช้บริการ ไม่เลือกวัยค่ะมีทั้งสุภาพหยาบคาย และนักบุญเคยถูกคนเมาลวนลามไม่ใส่ถุงยาง ตัวใหญ่ บังคับทุกอย่างไม่ฟังใคร แขกพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแขกของเจ้าของอาบอบ นวด ทำให้เราไม่กล้าฟ้องต้องก้มหน้าทำด้วยความขมขื่น

ไม่ต้องบอกนะคะ ว่าทำไมไม่เลือกเดินทางอื่นมันไม่พอกินค่ะ แล้วดิฉันก็เคยโดนข่มขืนหมู่มาแล้ว ไม่มีใครตามคดีช่วยดิฉันได้เลย คิดประชดตัวเองด้วยการทำงานนี้ซะเลย แต่ก็ไม่ได้สบายดังที่คิดนัก ต่อมามีการตรวจโรคซึ่งมีเป็นประจำอยู่แล้ว ดิฉันติดเอดส์ อยู่ในขั้นแรก ๆ จึงต้องหยุดงานและรักษาตัวเรื่อยมางดเหล้า งดบุหรี่ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงทุกวันไปหาหมอ ได้รับคำแนะนำให้เข้าโครงการฟรี แต่ต้องดูแลตัวเองทุก เดือนต้องไปพบหมอได้รับยาฟรี ในระยะปีกว่าที่รับยาผิวพรรณเริ่มแห้งมีสะเก็ดและดำคล้ำ จึงเปลี่ยนยาและผิวพรรณก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ มีข้อเสียคือ แขน ขา ก้นจะเล็กลีบต้องทานยาวิตามินช่วยซึ่งเราต้องออกเงินซื้อเองเดือนละ 1000 กว่าบาทเงินสะสมก็ร่อยหรอลง ไปจึงคิดเรียนและหางานทำ

แต่ก็ยังมีแขกบางคนไม่รู้ แวะเวียนมาใช้บริการที่ห้องบ่อยๆ

มีรายได้จากการขายตัวเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ก็อยู่ได้แต่แขกพิเศษที่แวะเวียนมาจะทำตัวสนิทสนมมากจนเกินไปไม่ยอมสวมถุงยาง ดิฉันก็ไม่กล้าบอกว่าเป็นอะไรในเมื่อห้ามไม่ฟังก็ต้องยอมให้แต่โดยดี แต่ดิฉันมีความไม่สบายใจมากๆ เวลาผ่านไป 3-4 เดือน ต้องคอยหนีย้ายหอพัก เพราะหากเขารู้ว่าเป็นโรคอาจจะคิดว่าติดกับดิฉันก็ได้หรือพฤติกรรมเขาอาจจะติดกับที่อื่นๆ ก็ได้เพราะบางคนในระยะที่ทำงานนวด อยู่นั้น เขาเป็นโรคแล้วก็เปลี่ยนที่มำงานไปเรื่อยๆ หากแขกต้องการไม่สวมถุงยาง เขาจะตามใจทันทีเขาสมน้ำหน้าที่ไม่ระวังเองทุกคนที่เที่ยวต้องระวังนะคะเรื่องจริงทีเดียว ส่วนดิฉันก็เดือดร้อนต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ แขกที่สวมถุง ดิฉันก็ให้ที่อยู่ใหม่ และให้หาแขกหรือเพื่อนมาเพิ่มทำให้รายได้อยู่ในระดับเดิม

แต่ในระยะหลังๆคุณภาพชีวิตของดิฉันดีขึ้นสุขภาพดีจนเกือบปกติ รับแขกได้มากและแขกก็สวมถุงยางทุกคนทุกครั้ง

ยกเว้น แขกใหม่ ที่เพื่อนแขกแนะนำมาซึ่งใช้บริการดิฉันมาเกือบครึ่งปีแล้ว นัดดิฉันไปเที่ยวตากอากาศชายทะเลที่ระยองบอกว่าจะมีเพื่อนอีก 3 คนไปด้วย ให้ราคา ดีดิฉันจึงไปกับเขา เขาจะให้ดิฉัน ดื่มเหล้าดิฉันก็ไม่ดื่ม เพราะไม่ถูกกับโรคเวลาทานยา ต้องเข้าห้องน้ำแอบทาน เขาเมามายและหื่นมากๆ ร่วมกับดิฉันนัวเนีย ไปหมดพร้อมกัน โดยชาย 4 คนทำเหมือนหนังเอ็กซ์ฝรั่งที่สำคัญบังคับดิฉันโดยไม่สวมถุง ดิฉันจะบอกว่าเป็นอะไรกลัว เขาไม่เชื่อและหากเชื่อก็ต้องทำร้ายดิฉัน เขานอนพร้อม ๆ กับดิฉันตลอด 3 วัน ทำให้เขาทุกอย่าง จนระบมไปหมด ได้ค่าเหนื่อยมาสองหมื่นบาทดิฉันน่ะคุ้มมาก แต่พวกเขาจะคุ้มหรือไม่ฉันรู้ดี และคิดว่าทุกคนต้องติดโรคจากดิฉันแน่นอนอย่างน้อยที่ดิฉันจำได้แต่ละคนร่วมเพศกับดิฉันไม่ต่ำกว่าคนละ 6 ครั้ง จะไม่มีครั้งใดไม่ติดโรคเชียวหรือ

ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่อีกแล้ว จึงอยากขอเตือนนักเที่ยวท้งหลายเมื่อเที่ยวผู้หญิง ๆ ห้ามอะไรต้องเชื่อเพราะว่าเขารู้ตัวเองดี

จงตระหนักว่า ผู้หญิงทุก ๆคน ที่คุณไปใช้บริการนั่นกาหัวไว้ก่อนเลยว่า เขาเป็นเอดส์ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ป้องกันตัว เป็นเพราะผู้ชายบังคับเขา ดังนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่เขาได้แก้แค้นผู้ชายโดยไม่ตั้งใจติดโรคไปสู่ เมียที่บ้านมีลูกพลอยติดโรคไปด้วย ชีวิตที่เคยเป็นจะเป็นนรก เช่นดิฉันได้รับ....

ปล. ส่งต่อให้คนอ่านเยอะๆนะค่ะ!! สงสารคุณแม่บ้านจริงๆ

.....................................................................................................................................................................
คำตอบ

ส่งให้พวก เรียนบริหารด้วยซิ พวกนั้นมักไว้ใจพวกเดียวกันเอง มีโอกาสติดมากกว่าอีก (ทำไมส่งให้ กรู คนเดียว)

แล้วก็สอนให้พวกบริหาร ใส่ถุงยางด้วยนะ เพราะถ้าใส่ไม่ดีมันจะแตก หลุด อ้อ ต้องดูขนาดด้วยนะ

ถุงยางมันมีขนาดของมัน ถ้าใหญ่หน่อยก็ให้ใส่ใหญ่ จะได้ไม่อึดอัด แล้วก็ไอ้เรื่องพวกนี้น่ะ

มีมานานมากแล้ว ไอ้คนที่ไม่รู้ก็พวก เด็กดี(ในสายตาพวกเดียวกันเองนั่นแหละ)ส่งให้มันดูด้วย

จะได้ระวังเอาไว้ อีกอย่าง ผู้หญิงขายบริการทุกคนกลัวเอดส์ และต้องการใส่ถุงยางทุกครั้งอยู่แล้ว

ไม่มีใครอยากเล่นเพรียวหรอก มันก็กลัวแขกเหมือนที่เรากลัวนั่นแหละ (อันนี้ถามมาเอง)

มันให้ใส่ทุกคนนั่นแหละ ปลอดภัยมากๆ แต่ตัวมันก็มีโอกาสติดมากจากเรืองที่เล่า

แต่จากข้อมูลการติดเอดส์ บางส่วน จะมาจากความไว้ใจ คิดว่าต่างคนต่างสะอาด ก็เลยติด ก็ไอ้พวกคนดี

ทั้งหลายที่มันเอากันเองนี้แหละ มันไม่รู้ว่าติด เพราะคิดว่าสะอาด เสียคนมาหลายคนแล้วให้ระวังให้ดี

เรามันนักเที่ยว ต้องรู้จักป้องกัน และรู้เชิงอยู่แล้ว ที่สำคัญตอนนี้เลิกเที่ยวแล้ว (เพราะไม่มีเงิน)

ของเราประเภท รู้แล้วก็ยังทำ แล้วไอ้เรื่องที่เล่ามาเนี่ย เด็กเราก็ยิ่งกว่านี้ อีก แค่นี้ ชิว ชิว

เราสัมภาษณ์ทุกคนแหละ ชีวิตมันก็แค่นี้ เดี๋ยวก็ตายแล้ว จะเอาอะไรมากมาย คนเที่ยวมันก็รู้

อยู่ที่ว่ามันจะป้องกันหรือเปล่า

อยากบอกว่า อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เพียงแค่ความฝัน ลำบากลำบนไม่สนใจ

อยากบอกอีกว่า พวกที่สมควรอ่านที่สุด ก็ไอ้พวกบริหาร ไก่อ่อนสอนขัน นั่นแหละ

อยากบอกอีกว่า 2 คนเรามีกรรมเป็นกรรมเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้คุณจะป้องกัน
ถึงที่สุดก็เถอะ มันอยู่ที่ว่าคนเราทำอะไร หรือไม่ทำอะไรแล้ว ยอมรับสิ่งเกิดขึ้นจากการทำ และการไม่ทำนั้นสิ่งนั้น
ได้หรือไม่ ถ้ายอมรับและอยู่กับมันอย่างมีสติได้ก็แค่นั้น (แต่ มันพูดง่ายแต่ทำยาก นะสิ)

อืม อืม

หุ หุ

อิ อิ


ไอ้สามคำหลังนี่เหมือนกัน เวลา msn หรือโพสน์ ข้อความทำไม่ต้องมีด้วย ไม่เข้าใจ